ถ่านไฟฉายและรีโมทที่ใช้แล้วเอาไปทิ้งที่ไหนได้บ้าง?
ปัจจุบันไฟฉาย รีโมท หรือนาฬิกาบางเรือนก็ยังจำเป็นที่จะต้องใช้ถ่านสำหรับการใช้งานอยู่ แต่หลายคนเมื่อใช้ถ่านเหล่านี้จนเสื่อมสภาพมักจะนำไปทิ้งไว้ในถังขยะรวมหรือขยะทั่วไปซึ่งไม่ถูกต้อง วันนี้ yologreennews จะมาแนะนำพิกัดในการทิ้งถ่านเหล่านี้ให้ถูต้องและเหมาะสม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
ถ่านไฟฉายและถ่านรีโมทคืออะไร
ถ่านเหล่านี้คือแบตเตอรี่ชนิดปฐมภูมิ ซึ่งเป็นแบตเตอรี่ที่เมื่อผ่านการใช้แล้วจะไม่สามารถนำกลับมาชาร์จประจุเพื่อกลับมาใช้ใหม่ได้ หรือที่มักเรียกกันว่า “ถ่าน” ซึ่งมีอยู่หลายชนิด เช่น ถ่านอัลคาไลน์ ถ่านลิเทียม เป็นต้น ซึ่งแบตเตอรี่แบบนี้ก็จะมีหลายขนาด ใช้ในวิทยุ นาฬิกา ไฟฉาย สามารถเก็บพลังงานได้สูง อายุการใช้งานสูง แต่เมื่อใช้หมดแล้วก็จะกลายเป็นขยะหรือมลพิษ สำหรับถ่าไฟฉายนั้นก็สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ก็คือประเภทเซลล์ปฐมภูมิ (primary cell) และประเภทเซลล์ทุติยภูมิ (secondary cell)
ความอันตรายของถ่านหรือแบตเตอรี่
ความอันตรายของถ่านหรือแบตเตอรี่นั้นมาจากสารที่ใช้ในการทำแบตเตอรี่นั่นก็คือสารตะกั่ว สารแมงกานีส สารแคดเมียม สารนิเกิล สารปรอท และสารเคมีที่ใช้ในการทำปฏิกิริยา เช่น กรดซัลฟิวริก เป็นต้น ซึ่งสารพิษเหล่านี้หากไม่ได้รับการกำจัดหรือการจัดการที่ถูกต้องก็จะเกิดการปนเปื้อนต่อแหล่งน้ำ ผิวดิน และอากาศซึ่งสามารถแพร่เข้าสู่คน สัตว์และพืชต่าง ๆ ดังนี้
1.เกิดอาการเจ็บป่วยอย่างเฉียบพลัน หรืือป่วยเรื้อรังมาจากการสัมผัสกับสารพิษหรือกากแบตเตอรี่ที่ใช้แล้วที่่มีสารพิษเป็นส่วนประกอบอยู่ ซึ่งมักพบในคนงานที่ทำงานในโรงงานทำไฟฉายและแบตเตอรี่ หรือคนงานเก็บขยะมูลฝอยและชาวบ้านที่มาขุดคุ้ยขยะ โดยสารพิษเหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านการหายใจ และการกินอาหารที่มีการปนเปื้อนสารพิษ นอกจากนี้ยังสามารถดูดซึมผ่านทางผิวหนังได้อีกด้วย
2.ปนเปื้อนต่อดิน น้ำใต้ดิน และแหล่งน้ำผิวดินใกล้เคียงที่ใช้เป็นแหล่งน้ำอุปโภคบริโภคในครัวเรือน
3.เกิดมลพิษทางอากาศจากการแพร่กระจายของสารเคมี หรือฝุ่นละอองจากการเผาขยะมูลฝอยที่มีกากแบตเตอรี่ปะปนอยู่ เมื่อเราสูดดมอากาศที่เป็นพิษเข้ามาในร่างกายก็จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
ควรทิ้งถ่านหรือแบตตเตอรี่ที่ไหนถึงจะเหมาะสม
ปัจจุบันมีหลายสถานที่ที่มีจุดรับทิ้งถ่านไฟฉายและแบตเตอรี่ โดยเฉพาะที่กรุงเทพมหานครที่มีจุดรับทิ้งถ่ายไฟฉายตามเขตต่าง ๆ ซึ่งพิกัดมีดังนี้
1.บริเวณหน้า 7-eleven (บางแห่ง)
2.บริเวณสำนักงานเขตของกรุงเทพมหานครทั้งหมด 50 เขต และที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า และศาลาว่าการกรุงเทพมหานครดินแดง ซึ่งเริ่มนำร่องเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา
3.หากไม่พบจุดรับทิ้งสามารถทิ้งที่ถังขยะประเภทอันตรายได้เลย
หากมีสถานที่ไหนที่ทาง yologreennews ไม่ได้กล่าวไปทุกคนสามารถมาแปะพิกัดช่วยกันกระจายข่าวได้นะคะ เพื่อสิ่งแวดล้อมแล้วก็สุขภาพของทุกคนในอนาคตค่ะ
ที่มา
1.
Comments