top of page
YOLO

ถ้าปะการังหายไปจะเกิดอะไรขึ้น!


ปะการังสำคัญอย่างไร

สถานการณ์ของปะการัง (Coral) ทั่วโลกกำลังอยู่ในขั้นวิกฤต เหตุเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงมากขึ้นทุุกวัน ปะการังถือเป็นระบบนิเวศที่สำคัญที่มีประโยชน์นานัปการ เป็นทั้งแหล่งหลบภัยให้แก่สัตว์น้ำ และแหล่งประมงของมนุษย์ หากวันหนึ่งปะการังหายไปแล้วโลกจะกิดอะไรขึ้น


ปะการัง (Coral) คืออะไร?

ปะการัง (Coral) คือ  สิ่งมีชีวิตในทะเลที่อยู่ในกลุ่มของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ลำตัวจะนิ่ม มีหนวดส่วนปลายเป็นเข็มยื่นออกมาเพื่อจับเหยื่อที่เป็นตัวอ่อนของสัตว์ต่าง ๆ ที่ล่องลอยอยู่ในน้ำเป็นอาหาร ปะการังมีการสร้างชั้นหินปูนเคลือบตัวทำให้โครงสร้างภายนอกนั้นแข็งแรง นอกจากนี้ยังมีสีสันสวยงาม ทำให้บริเวณที่มีแนวปะการังอยู่เยอะนั้นกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมมากมาย


โดยส่วนใหญ่แล้วปะการังมักจะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มปะการังหรือแนวปะการัง ปะการังแต่ละตัวที่รวมกันนั้นจะสร้างโครงสร้างในรูปของหินปูนเป็นรูปร่างที่แตกต่างกัน และแต่ละชนิดของปะการังนั้นใช้เวลาในการเติบโตช้ามากขึ้นอยู่กับปัจจัยและสภาพแวดล้อม ได้แก่ อุณหภูมิของน้ำ และแสงสว่าง  โดยจะเจริญเติบโตได้ดีในบริเวณที่มีน้ำสะอาด สภาพท้องทะเลค่อนข้างแข็งหรือมีการเปลี่ยนแปลงน้อยความเค็มของน้ำค่อนข้างสูง  มีแสงสว่างมากพอควร  อุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 20-29 องศาเซลเซียส  ซึ่งปะการังนั้นสามารถเติบโตได้ถึง 500 ปีกันเลยทีเดียว 


ประโยชน์ของปะการัง


ปะการังมีประโยชน์และความสำคัญมากมาย ถือว่าเป็นระบบนิเวศที่สำคัญของท้องทะเลหรือมหาสมุทรเลยก็ว่าได้ โดยประโยชน์ของปะการังมีดังนี้


1.เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยหรือแหล่งอาหาร

ปะการังหรือแนวปะการังเปรียบเสมือนป่าดิบชื้น เนื่องจากมีระบบนิเวศที่ซับซ้อน มีหความหลากหลายของชนิดพันธุ์สูงมาก สิ่งมีชีวิตทั้งพืชและสัตว์มักใช้แนวปะการังเป้นแหล่งสืบพันธุ์ แหล่งวางไข่ แหล่งอนุบาลตัวอ่อน แหล่งหลบภัย และแหล่งหากิน ปลาเศรษฐกิจหลายชนิดก็ถูกพบในแนวปะการังเป็นจำนวนมาก ชาวประมงในบางท้องถิ่นที่มีแนวปะการังก็มักจะหาสัตว์น้ำหรือสัตว์ทะเลบริเวณแนวปะการังโดยตรง


2.เป็นแหล่งท่องเที่ยว

เนื่องจากแนวปะการังมีสีสันที่หลากหลายและสวยงาม ทำให้ได้รับความสนใจขากนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศจำนวนมาก นอกจากจะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจแล้วแล้ว แนวปะการังยังเป็นสถานที่ทำกิจกรรมเพื่อให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมแนวปะการัง


3.เป็นแนวป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง

แนวปะการังช่วยปกป้องชุมชนชายฝั่งจากคลื่นพายุและการกัดเซาะจากคลื่นซึ่งทั้งสองมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อเผชิญกับการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล


4.เป็นวัสดุในการก่อสร้าง

ในบางประเทศยังมีการใช้หินปะการังมาทำปูนขาวเพื่อนำมาผสมกับซีเมนต์ในการก่อสร้าง ซึ่งการนำปะการังมาทำเป็นวัสดุในการก่อสร้างนั้น จะทำให้ปะการังเสียหายจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลเสียอย่างรุนแรง ในประเทศไทยจึงไม่มีการอนุญาตในนำปะการังมามาเป็นวัสดุก่อสร้าง


5.เป็นยารักษาโรค

ปัจจุบันนักวิทยาศาตร์ได้มีการค้นคว้าหาตัวยาที่สำคัญในการรักษาโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารต้านมะเร็ง ตัวยาเหล่านั้น มีแนวโน้มว่าพบได้ในปะการังรวมทั้งในสิ่งมีชีวิตในแนวปะการังหลายชนิด เช่น ฟองน้ำ ปะการังอ่อน กัลปังหา เพรียงหัวหอม ปลิงทะเล เป็นต้น นอกจากนี้ ยังพบว่า หินปะการังบางชนิดเช่นปะการังดอกไม้ทะเล (Goniopora spp.) มีรูพรุนคล้ายกระดูกคน จึงใช้หินปะการังชนิดนี้ในการทำกระดูกเทียมรักษาผู้ป่วยที่กระดูกหัก


ถ้าปะการังหายไปจะเกิดอะไรขึ้น!


การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเริ่มรุนแรงมากขึ้นทุกวัน ปะการังเริ่มทยอยฟอกขาวมากขึ้น หากวันหนึ่งปะการังหายไปจนหมดท้องทะเลนั้นแน่นอนว่าโลกจะได้รับผลกระทบรุนแรงอย่างแน่นอน เมื่อไม่มีปะการังอยู่สัตว์น้ำและพืชอีกหลายชนิดอาจสูญพันธุ์ได้ เนื่องจากไม่มีที่เพาะพันธุ์และแหล่งหลบภัย ชุมชนที่ติดแนวชายฝั่งอาจได้รับความเสียหายจากคลื่นทะเลเนื่องจากไม่มีแนวปะการังที่ชะลอแรงคลื่น และแน่นอนว่ามนุษย์นั้นได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะทางด้านการประมง ภัยพิบัติ และการสูญเสียแหล่งอาหารเป็นต้น


ภาวะโลกร้อนในปัจจุบันเริ่มส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกมากขึ้นทุกวัน สัตว์และพืชบางชนิดก็เริ่มสูญพันธุ์มากขึ้นเช่นกัน ในตอนนี้เราแทบจะแก้ไขอุณหภูมิโลกที่มีแนวโน้มมากขึ้นทุกวันไม่ได้แล้ว แต่เรายังสามารถช่วยกันป้องกันไม่ให้มันรุนแรงไปมากกว่าเดิมได้ 


ที่มา


1 view

Comments


bottom of page