หากน้ำแข็งในอาร์กติกไม่เหลือเลย จะเกิดอะไรขึ้น!

เวลายิ่งผ่านไปนานเท่าไหร่ น้ำแข็งขั้วโลกก็ละลายมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากอุณหภูมิของโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หากโลกยังไม่สามารถลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศไม่ได้ คาดว่าในอีก 2 ปีข้างหน้าแผ่นน้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติกอาจละลายจนไม่มีเหลือ

จากวารสาร Nature Communications ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้ระบุว่าภายในปี 2027 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า มหาสมุทรอาร์กติกอาจไม่มีแผ่นนำแข็งปกคลุมอยู่แล้ว หากมนุษย์ยังไม่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้สำเร็จ

นักอุตุนิยมวิทยาจากมหาวิทยาลัยโคโลราโด “อเล็กซานดรา จาห์น” ได้ระบุไว้ว่า วันที่มหาสมุทรอาร์กติกไร้น้ำแข็ง อาจจะไม่ทำให้สถานการณ์ของโลกเปลี่ยนไปมากนัก แต่มันแสดงให้เห็นว่าการกระทำของมนุษย์เปลี่ยนไป เราได้เปลี่ยนลักษณะเฉพาะของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ จากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 

ในอดีตที่ผ่านมานั้นน้ำแข็งในมหาสมุทรหรือในทะเลของโลกมีบทบาทสำคัญที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิของมหาสมุทรและอากาศ เป็นแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยให้สัตว์นานาชนิด ช่วยชะลอภาวะโลกร้อนโดยการลดการสะสมความร้อนในมหาสมุทร และแผ่นน้ำแข็งยังมีค่าแอลบีโด้ (Albedo) หรืออัตราส่วนระหว่างปริมาณแสงที่วัตถุสะท้อนหรือกระเจิงต่อปริมาณแสงที่วัตถุนั้นดูดซับเอาไว้ ซึ่งแผ่นน้ำแข็งจะมีค่าแอลบีโด้ (Albedo) ที่ช่วยสะท้อนความร้อนกลับสู่อวกาศได้ดีอีกด้วย 

แน่นอนว่าหากวันหนึ่งแผ่นน้ำแข็งที่มหาสมุทรอาร์กติกหายไป โลกก็จะดูดซับความร้อนมากขึ้น แต่จะสะท้อนความร้อนกลับสู่อวกาศน้อยลง ปริมาณน้ำทะเลหรือมหาสมุทรสูงขึ้น แหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ก็จะหายไป วิถีชีวิตของผู้คนก็จะเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย หากโลกยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นนี้ อาร์กติกที่ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง อาจกลายเป็นน้ำเดือดในเวลาไม่ช้า

ที่มา

springnews.co.th

seub.or.th

th.wikipedia.org