top of page
  • YOLO

มีป่าชายเลนแล้วดีอย่างไร?


มีป่าชายเลนแล้วดีอย่างไร

นเวียนคืออะไรงนหมุนเวีหรือ Renewable Energy คือ พลังงาไม่หมด สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งมีแ

"ป่าชายเลน" เป็นระบบนิเวศที่มีสัตว์และพืชหลายชนิด ใช้ชีวิตร่วมกันในสภาพแวดล้อมที่เป็นดินเลน น้ำกร่อย และมีน้ำทะเลท่วมถึงอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นเราจึงพบป่าชายเลนอยู่ตามบริเวณชายฝั่งทะเล ปากแม่น้ำ ทะเลสาบ และรอบเกาะแก่งต่าง ๆ ในพื้นที่ชายฝั่งทะเล พันธุ์ไม้ที่มีมากและมีบทบาทสำคัญต่อป่าชายเลนนั่นก็คือ ไม้โกงกาง หลายคนอาจจะเคยได้ยินไม้โกงกางกันมาบ้าง ป่าชายเลนจึงถูกเรียกอีกชื่อว่า “ป่าโกงกาง”นอกจากไม้โกงกางแล้ว็ยังมีไม้ตระกูลอื่นที่มีความสำคัญกับป่าชายเลนเหมือนกัน เช่น แสมขาว แสมทะเล เหงือกปลาหมอ เป็นต้น

สิ่งมีชีวิตที่นอกเหนือจากพันธุ์ไม้แล้วก็ยังมีสัตว์อีกหลายสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าชายเลนและมีความสำคัญต่อระบบนิเวศอย่างมาก เช่น ปู ไส้เดือน ปลา และกุ้ง เป็นต้น นอกเหนือจากสิ่งมีชีวิตแล้วสิ่งที่ไม่มีชีวิตป่าชายเลนก็มีเช่นกัน นั่นก็คือ ธาตุอาหาร เกลือแร่ น้ำ ซากพืช-ซากสัตว์ รวมไปถึงสภาพภูมิอากาศ เช่น อุณหภูมิ แสง ฝน ความชื้น เป็นต้น

สภาพแวดล้อมโดยทั่วไปของป่าชายเลนนั้นจะแตกต่างกับระบบนิเวศของป่าประเภทอื่นอย่างมาก โดยเฉพาะดิน เนื่องจากดินในป่าชายเลนนั้นจมีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก มีแร่ธาตุอาหารสูง ธาตุอาหารพวกนี้จะมาจากการกัดเซาะตามชายฝั่ง แหล่งน้ำลำธาร สารอินทรีย์ที่ได้จากซากพืชซากสัตว์บริเวณป่าชายเลน และแพลงค์ตอน เป็นต้น นอกจากนี้เราจะเห็นได้ว่าป่าชายเลนนั้นจะมีทั้งระบบนิเวศที่ผสมผสานระหว่างระบบนิเวศทางบกและทางน้ำ สัตว์หรือพืชที่อาศัยอยู่ในป่าชายเลนจึงต้องมีการปรับสภาพเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอดในสภาพเช่นนี้ได้ เช่น ปลาตีน (Mudskipper) ที่สามารถอาศัยได้ทั้งบนบก น้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็มเนิดต

ามธรรมชาติรอบ ๆ ตั


ความสำคัญและประโยชน์ของป่าชายเลน 

ป่าชายเลนนั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งระบบนิเวศและเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่ามหาศาล ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและด้านเศรษฐกิจ ดังนี้

ด้านสิ่งแวดล้อม


  1. 1. เป็นป่าที่สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้สูงกว่าป่าประเภทอื่น เนื่องจากป่าชายเลนนั้นดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แล้วดึงไปในพื้นดินใต้ทะเลหรือดินเลนชายฝั่ง ในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ลงสู่มหาสมุทรหรือทะเลนั้น ถือเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งก็จะเป็นการลดโลกร้อนให้โลกได้ด้วย 

  2. 2. เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน และเป็นที่หลบภัยของสัตว์น้ำหลายชนิด เนื่องจากป่าชายเลนนั้นมีความสมบูรณ์ของธาตุอาหารอย่างมาก ซึ่งเหมาะกับการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำวัยอ่อนอย่างมาก ป่าชายเลนนั้นมีตะกอนและดินโคลนเยอะจึงทำให้น้ำมีสีขุ่น มีเศษใบไม้ที่ร่วงหล่น รวมไปถึงมีรากไม้นานาชนิด สิ่งแวดล้อมเหล่านี้จึงเป็นที่กำบังอย่างดีให้กับสัตว์น้ำวัยอ่อน จากเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ป่าชายเลนจึงเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน และเป็นที่หลบภัยของสัตว์น้ำได้อย่างดีเยี่ยม

  3. 3. เป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของสัตว์น้ำ เนื่องจากป่าชายเลนมีซากพืชและซากสัตว์ปริมาณมาก จึงเกิดการย่อยสลายแล้วกลายเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อสัตว์น้ำอย่างมาก นอกจากนั้นป่าชายเลนยังมีแร่ธาตุมากมายที่มาจากการกัดเซาะตามชายฝั่ง แหล่งน้ำลำธารต่าง ๆ จึงทำให้ป่าชายเลนเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของสัตว์น้ำ

4. ช่วยป้องกันการพังทลายของชายฝั่งทะเล ในป่าชายเลนนั้นมีรากต้นไม้ที่สามารถช่วย ป้องกันการกันเซาะของชายฝั่งได้อย่างดีเยี่ยม รากไม้เหล่านี้รวมไปถึงต้นไม้ต่าง ๆ สามารถช่วย บรรเทาความเร็วของกระแสน้ำที่พัดเข้ามาที่ชายฝั่ง การพังทลายของชายฝั่งทะเลก็จะลดน้อยลงรา เป็น

ด้านเศรษฐกิจ


  1. 1. พืชผักและสมุนไพรในป่าชายเลนสามารถกินได้นำมาสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้ พืชที่เจริญเติบโตในป่าชายเลนนั้นสามารถรับประทานได้และในปัจจุบันร้านอาหารหลายร้านนำพืชผักและสมุนไพรที่อยู่ในป่าชายเลนมาสร้างรายได้ด้วยการนำไปทำอาหารหลากหลายเมนูให้ลูกค้าได้ลองทาน เช่น ยำใบชะคราม ซึ่งก็เป็นเมนูยอดฮิตที่ร้านอาหารที่อยู่ใกล้เคียงกับป่าชายเลนนั้นนำมาเป็นวัตถุดิบ หรือสินค้าที่สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างมาก

  2. 2. เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ปัจจุบันแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์กำลังเป็นที่นิยมมาก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมจิตอาสามากมายที่เชิญชวนปลูกป่าชายเลน จึงเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปจำนวนมาก 


ปลาตีน

ในปัจจุบันนี้ จังหวัดที่มีป่าชายเลนที่มากที่สุดในประเทศไทย 5 ดันดับแรกได้แก่ พังงา สตูล กระบี่ ตรัง และระนอง ตามลำดับ โดยจังหวัดพังงาที่มีพื้นที่ป่าชายเลนมากที่สุดนั้น มีพื้นที่ทั้งหมด 288,444 ไร่ และจากข้อมูลในปี 2020 ประเทศที่มีป่าชายเลนมากที่สุดในโลก คือ  ประเทศอินโดนีเซีย มีพื้นที่ทั้งหมด 17,575,000 ไร่


จากผลการศึกษาการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ของไม้สกุลโกงกาง ในพื้นที่แปลงปลูกป่าชายเลนของประเทศไทยพบว่าป่าชายเลนสามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้สูงสุด 9.4 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อไร่ต่อปี สามารถลดสาเหตุการเกิดโลกร้อนได้ แน่นอนว่าหากเรามีพื้นที่ป่าชายเลนที่เยอะขึ้นปัญหาโลกร้อนที่เราเจออยู่ก็จะลดน้อยลง เพราะปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่อยู่ในชั้นบรรยากาศนั้นจะน้อยลง กว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน


ต้นโกงกาง

งงที่มา:


เผเผยแพร่เมื่อวันที่




  1. น้ำมัน เป็นต้นจนพลังงานสะอาด ไม่ก่อมลพิษ หรือส่งกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่ทำให้

    านทางเลือกที่ถูกนำมาใช้ในปัจจุบัน เพื่อทดแทนพลังงาเชื้อเพลิงฟอสซิล หรือพลังงานที่ใช้แล้วหมดไป จำพวกน้ำมัน ถ่านหธรรมชาติ หินน้ำมัน และทรเกิดการเปลี่ยนแปลมอร์ลิงค์ จำกัด รับกำจัด-------------------------------ต้องการข้อมูลด้านการบริการสิ่งแวดล้บถไที่g : 083-844

ดู 2 ครั้ง

Comments


bottom of page