ประชากรโลกในปัจจุบันเพิ่มขึ้นจากในอดีตอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นแล้วแน่นอนว่าการบริโภคก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย จึงทำให้การผลิตสินค้าเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อการการอุปโภคและบริโภคของประชากรโลก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่าง “ภาวะโลกร้อน” ในปัจจุบัน
ปัจจุบันจึงมีการรณรงค์และให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมากมาย เพื่อสร้างความตระหนักให้ผู้คนช่วยกันแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน หนึ่งในการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมนั่นก็คือ การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดการปล่อยของเสีย และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนนั้นเอง ซึ่งในการแก้ปัญหาเหล่านี้ทางผู้ผลิตและผู้บริโภคต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา โดยผู้บริโภคสามารถปรับพฤติกรรมในการบริโภคให้ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและรักษ์โลกมากขึ้น โดยมีหลากหลายทางเลือกในการบริโภคแบบรักษ์โลก หนึ่งในทางเลือกที่แนะนำให้รู้จักนั้นก็คือ “ฉลากสิ่งแวดล้อม”
“ฉลากสิ่งแวดล้อม” เป็นกลไกการสื่อสารและบ่งบอกความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้บริโภครับทราบ ฉลากสิ่งแวดล้อมนี้จะมอบให้แก่ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าผลิตภัณฑ์ที่ทำหน้าที่แบบเดียวกัน และบ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์หรือสินค้าชนิดนี้มีคุณค่าทางสิ่งแวดล้อม ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการที่ช่วยลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ผู้ผลิตก็จะได้รับประโยชน์ในแง่ของกำไร จากการลดต้นทุนที่เกิดจากการลดทรัพยากร พลังงาน และของเสีย ในการผลิตสินค้าและการให้บริการ โดยฉลากสิ่งแวดล้อมเกิดจากการรวมตัวของ “เครือข่ายฉลากสิ่งแวดล้อม” (Global Eco-labelling Network) หรือ GEN ในปี ค.ศ.1994 หรือ พ.ศ. 2537 มีเป้าหมายเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมด้วยการใช้ฉลากสิ่งแวดล้อม ปัจจุบัน GEN มีองค์กรสมาชิกและพันธมิตรกระจายอยู่ใน 47 ประเทศ หนึ่งในนั้นมีประเทศไทยเป็นสมาชิก ที่มีสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยเป็นหน่วยงานที่ให้การรับรอง “ฉลากเขียว” โดยฉลากสิ่งแวดล้อม แบ่งออกได้ 3 ประเภท ตามมาตรฐาน ISO ดังนี้
1.ฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 1 (ISO 14024) : เป็นฉลากที่แสดงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้การรับรองโดยองค์กรอิสระที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือ Third party ในประเภทไทยมีการออกฉลากประเภทที่ 1 คือ “ฉลากเขียว”
2.ฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 2 เป็นฉลากที่ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย หรือ ผู้ส่งออก จะเป็นที่บ่งบอกความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือแสดงค่าทางสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ตนเอง โดยไม่มีองค์กรกลางในการดูแลฃ
3.ฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 3 (ISO14025) เป็นฉลากที่แสดงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ โดยมีหน่วยงานอิสระ หรือองค์กรกลางในการทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนที่จะประกาศลงกับผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ต่อไป
นอกเหนือจากฉลาก ทั้ง 3 ประเภทที่กล่าวไปข้างต้นนี้ ยังมีฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทอื่น ๆ ที่ถูกพัฒนาโดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะ ในการแสดงเจตนาเพื่อสื่อสารหรือจูงใจให้ผู้บริโภคเห็นความสำคัญในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้น ๆ เช่น ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ที่เราคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และโรงแรมใบไม้เขียว เป็นต้น
หากผลิตภัณฑ์หรือสินค้าชนิดใดที่มี “ฉลากสิ่งแวดล้อม” นอกจากจะช่วยการันตีได้ว่ารักษ์โลกแล้วผู้บริโภคยังสามารถมั่นใจได้ว่า สินค้าปลอดภัย เนื่องจากผ่านการตรวจสอบอย่างรอบคอบและถี่ถ้วนแล้ว มาร่วมกันช่วยโลกผ่านการซื้อผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่มี “ฉลากสิ่งแวดล้อม” ด้วยกันค่ะ
ที่มา
เผยแพร่เมื่อวันที่
นเวียนคืออพลังนหมุนเวีหรือ Renewable Energy คือ พลังงานที่ใช้ไม่หมด สามารถนำกลับมาใามธรรมชาติรอบ ๆวทางเลือกที่ถูกนำมาใช้ในปัจจุบัน เพื่อทดแทนพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล หรือพลังงานที่ใช้แล้วหมจำพวกน้ำมัน ถ่านหธรรมชาติ หินน้ำมัน แลพลสะอาด ไม่ก่อมลพิษ หรือส่งกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปล วันมอรจำกัด รับกำจัด-------------------------------ต้องการข้อมูลด้านการบริการสิ่งแวดล้บถไที่g : 844
Comments